วันนี้เราจะมาคุยกันถึงวิธีจัดการกับความคิดวุ่นวายในสนาม โดยใช้หลักการจากหนังสือดัง “The Inner Game of Golf” โดยเฉพาะเทคนิคที่ชื่อว่า “Back-Hit-Stop” ที่ช่วยให้ผู้เขียนหนังสือลดสกอร์ลงมาต่ำกว่า 90 ได้จริง
ทำไมเราถึงคิดมากในสนามกอล์ฟ?
เคยสังเกตไหมครับว่า เวลาเราตีเสีย เรามักจะคิดวนไปวนมาว่า “เมื่อกี้ทำอะไรผิดนะ?” “แขนงอไปรึเปล่า?” “ขึ้นไม้เร็วไปไหม?” พอช็อตต่อไป ก็พยายามจะ “แก้ไข” สิ่งที่คิดว่าผิด กลายเป็นว่ายิ่งพยายามคุมวงสวิง วงก็ยิ่งเกร็ง ยิ่งไม่เป็นธรรมชาติ
ทิโมธี กัลล์เวย์ ผู้เขียนหนังสือ เรียกสภาวะนี้ว่าเกิดจาก “ตัวตนที่ 1” (Self 1) ของเรา ซึ่งก็คือเสียงในหัวที่คอยสั่ง คอยวิจารณ์ คอยตัดสินตลอดเวลา ส่วน “ตัวตนที่ 2” (Self 2) คือร่างกายและสัญชาตญาณของเรา คนที่ทำหน้าที่ตีลูกกอล์ฟจริงๆ ปัญหาคือ ตัวตนที่ 1 ไม่ค่อยไว้ใจตัวตนที่ 2 เลยพยายามจะควบคุมทุกอย่าง ทำให้ตัวตนที่ 2 ทำงานได้ไม่เต็มที่
ขนาดนักกอล์ฟระดับตำนานอย่าง บ็อบบี้ โจนส์ ยังเคยบอกไว้เลยว่า การจะตีให้ดี ต้องพยายามไม่ให้สมองส่วนคิดมาควบคุมมากเกินไป และต้องมีสมาธิจดจ่ออยู่กับผลลัพธ์ (เป้าหมาย) โดยไม่คิดถึงวิธีการตี
แล้วจะหยุดคิดมากได้ยังไง? ลอง “Back-Hit-Stop” ดู!
กัลล์เวย์เจอว่า ในกีฬาเทนนิส การให้นักเรียนพูดคำว่า “Bounce” ตอนลูกกระทบพื้น และ “Hit” ตอนไม้กระทบลูก ช่วยให้นักเรียนมีสมาธิมากขึ้นและตีได้ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เขาเลยพยายามหาวิธีคล้ายๆ กันสำหรับกีฬากอล์ฟ
ในกีฬากอล์ฟ ลูกกอล์ฟมันอยู่นิ่งๆ ไม่ได้เคลื่อนที่เหมือนลูกเทนนิส การจะจ้องลูกนิ่งๆ นานๆ มันน่าเบื่อและอาจทำให้เครียดกว่าเดิม กัลล์เวย์พบว่า สิ่งที่เคลื่อนที่และสำคัญกว่าในวงสวิงกอล์ฟคือ “หัวไม้” แต่เรามองตามหัวไม้ไม่ได้ เราต้องใช้ “ความรู้สึก” (Feel) แทน
นี่คือที่มาของเทคนิค “Back-Hit-Stop”:
- “Back” (แบ็ค): ให้พูดคำว่า “แบ็ค” ในใจ (หรือพึมพำเบาๆ) ในจังหวะที่รู้สึกว่า หัวไม้ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของแบ็คสวิงพอดี ไม่ต้องกังวลว่ามันถูกตำแหน่งไหม แค่รับรู้ความรู้สึกว่ามันอยู่ตรงนั้น
- “Hit” (ฮิต): ให้พูดคำว่า “ฮิต” ในจังหวะที่รู้สึกว่า หน้าไม้กระทบลูกพอดี
- “Stop” (สต็อป): ให้พูดคำว่า “สต็อป” ในจังหวะที่รู้สึกว่า ไม้หยุดนิ่งเมื่อจบวงสวิง (Follow-through)
✅ข้อควรจำ: คำว่า “แบ็ค”, “ฮิต”, “สต็อป” ไม่ใช่คำสั่งให้ร่างกายทำ แต่เป็นแค่ “คำบอกจังหวะ” เพื่อให้เราจดจ่ออยู่กับ ความรู้สึก ของหัวไม้ตลอดวงสวิง การทำแบบนี้จะช่วยให้สมองส่วนคิด (ตัวตนที่ 1) มีอะไรทำ และไม่มายุ่งกับการสวิงของร่างกาย (ตัวตนที่ 2) มากเกินไป
หรือจะลอง “ดะ-ดะ-ดะ-ดะ” ก็ได้นะ
บางคนพอใช้ “Back-Hit-Stop” แล้วเผลอคิดเป็นคำสั่งอยู่ดี (“เอาไม้ขึ้น!”, “ตี!”, “หยุด!”) ถ้าเป็นแบบนั้น ลองเปลี่ยนมาใช้เสียงที่เป็นกลางๆ อย่าง “ดะ” แทนก็ได้ครับ อาจจะแบ่งเป็น 4 จังหวะ:
- ดะ (จังหวะเริ่มขึ้นไม้ – Takeaway)
- ดะ (จังหวะที่ไม้ขึ้นสูงสุด – Top of backswing)
- ดะ (จังหวะที่ไม้กระทบลูก – Impact)
- ดะ (จังหวะที่ไม้จบวง – Finish)
วิธีนี้จะช่วยให้เราจับ “จังหวะ” (Rhythm) ของวงสวิงได้ดีขึ้นด้วย
หัวใจสำคัญ: โฟกัสที่ “การทำ” ไม่ใช่ “ผลลัพธ์”
ไม่ว่าจะใช้ “Back-Hit-Stop” หรือ “ดะ-ดะ-ดะ-ดะ” สิ่งสำคัญที่สุดคือการตั้งใจทำแบบฝึกหัดนี้จริงๆ เป้าหมายของเราคือการฝึกสมาธิ ไม่ใช่การตีให้ดีขึ้น (ถึงแม้ว่าผลลัพธ์ที่ดีมักจะตามมาเองก็ตาม)
- ฝึกที่สนามไดรฟ์ก่อน: ลองทำที่สนามไดรฟ์ให้คุ้นเคยก่อนเอาไปใช้ในสนามจริง
- พูดออกเสียงเบาๆ: ช่วงแรกๆ การพูดออกเสียงเบาๆ จะช่วยให้จับจังหวะได้แม่นขึ้น
- อย่ามองว่าเป็นเวทมนตร์: เทคนิคนี้ไม่ใช่คาถา ถ้ามันได้ผล ก็เพราะสมาธิเราดีขึ้น ไม่ใช่เพราะตัวคำพูด
- แค่รับรู้ ไม่ต้องควบคุม: แค่สังเกตและรับรู้จังหวะ ไม่ต้องพยายามบังคับวงสวิง
มีเรื่องเล่าของนักกอล์ฟคนหนึ่งชื่อ ดีน นิมส์ ที่ลองใช้เทคนิคคล้ายๆ กัน (เขาใช้ “Hit-Bounce” คือพูด “Hit” ตอนตี และ “Bounce” ตอนลูกตก) แล้วสกอร์ลดลงจากที่ไม่เคยต่ำกว่า 85 มาเป็น 76 ได้ทันที หรือเด็กผู้หญิง 8 ขวบที่ไม่เคยตีโดนลูกเลย พอได้ลอง “ดะ-ดะ-ดะ-ดะ” ก็ตีโดนทุกลูก แสดงให้เห็นว่าเทคนิคง่ายๆ นี้ช่วยได้จริงๆ ถ้าเราเปิดใจลองทำดู
ตัวผู้เขียนเองก็ใช้เทคนิค “ดะ-ดะ-ดะ-ดะ” นี่แหละครับ เป็นหลักในการฝึกซ้อม (สัปดาห์ละครั้ง) จนสามารถลดสกอร์เฉลี่ยจากประมาณ 95 ลงมาเหลือประมาณ 88 และเริ่มตีต่ำกว่า 90 ได้สำเร็จ
ลองเอาไปใช้ดูนะครับ
ครั้งต่อไปที่ไปซ้อมหรือออกรอบ ลองเอาเทคนิค “Back-Hit-Stop” หรือ “ดะ-ดะ-ดะ-ดะ” ไปใช้ดูนะครับ ตั้งใจทำแบบฝึกหัด มีสมาธิอยู่กับความรู้สึกของหัวไม้และจังหวะของวงสวิง ปล่อยให้ร่างกายทำงานไปตามธรรมชาติ เลิกสั่ง เลิกคิด เลิกวิจารณ์ตัวเองสักพัก แล้วคุณอาจจะแปลกใจกับผลลัพธ์ที่ได้ เหมือนกับที่หลายๆ คนเคยเจอมาแล้วก็ได้ครับ ขอให้สนุกกับการเล่นกอล์ฟนะครับ!













