ล่าสุดในปี 2024-2025 นี้ พวกเขาได้เปิดตัวก้านรุ่นใหม่ในซีรีส์ Tour AD ที่โด่งดัง นั่นคือ Tour AD GC ซึ่งชื่อ “GC” นั้นย่อมาจาก “Game Changer” หรือ “ผู้เปลี่ยนเกม” แค่ชื่อก็บอกแล้วว่านี่ไม่ใช่ก้านธรรมดาๆ
แล้วอะไรที่ทำให้ก้านไม้กอล์ฟรุ่นนี้พิเศษจนกล้าตั้งชื่อแบบนี้? บทความนี้จะพาไปเจาะลึกทุกแง่มุม ตั้งแต่หน้าตาสุดเท่ ไปจนถึงความรู้สึกและผลงานในสนาม ด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายที่สุด เพื่อตอบคำถามว่ามันคือ “Game Changer” ตัวจริงหรือไม่
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดของก้านรุ่นนี้ คือความขัดแย้งกันระหว่าง “ความรู้สึก” ตอนสวิง กับ “ผลลัพธ์” ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเป็นปริศนาที่ทำให้นักกอล์ฟหลายคนต้องประหลาดใจ
แรกเห็นก็สะดุดตา: ดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร
สิ่งแรกที่ทำให้ Tour AD GC โดดเด่นคือดีไซน์และสีสันที่สวยงาม ก้านรุ่นนี้มาในสี “ขาวมุก ตัดกับสีบรอนซ์และส้ม” (pearl white with bronze and orange accents) ซึ่งดูสดใสและทันสมัยมากๆ
ตัวก้านสีขาวมุกจะเปล่งประกายเมื่อโดนแสงแดดในสนาม ทำให้ดูพรีเมียมและแตกต่างจากก้านส่วนใหญ่ในตลาด การออกแบบนี้ถือเป็นการกลับไปสู่สไตล์สีสันสดใสที่เป็นเอกลักษณ์ของ Graphite Design ในอดีต แต่ก็ยังคงความทันสมัยเอาไว้ได้อย่างลงตัว
แค่เห็นก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือก้านไม้กอล์ฟจากแบรนด์ระดับท็อป ไม่ใช่แค่เครื่องมือสำหรับตี แต่เป็นอุปกรณ์กีฬาที่บ่งบอกถึงรสนิยมและคุณภาพได้เป็นอย่างดี
ความรู้สึกที่น่าประหลาดใจ: ฟีลลิ่งสวนทางกับผลลัพธ์
นี่คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ Tour AD GC แตกต่างจากก้านอื่นๆ นั่นคือความรู้สึกตอนสวิงที่อาจจะหลอกเราได้
ข้อมูลทางการ
ตามสเปกจากโรงงาน Graphite Design ระบุว่าก้านรุ่นนี้มีความแข็งไล่ระดับจากโคนไปปลายคือ แข็ง (Stiff) ที่โคน, เฟิร์ม (Firm) ตรงกลาง, และเฟิร์มมาก (Firm+) ที่ปลาย พูดง่ายๆ คือมันถูกออกแบบมาให้มีความเสถียรสูงมาก โดยเฉพาะส่วนปลายที่ใกล้กับหัวไม้ เพื่อป้องกันการบิดตัวและให้ความแม่นยำสูงสุด
ความรู้สึกจริงๆ ตอนใช้งาน
แต่สิ่งที่นักกอล์ฟที่ได้ทดลองใช้รู้สึกกลับแตกต่างออกไป แม้ว่าปลายก้านจะถูกระบุว่าแข็งมาก (Firm+) แต่หลายคนกลับรู้สึกว่ามันมีการ “ดีด” และ “ให้ตัว” ได้อย่างน่าประหลาดใจ
ความรู้สึกตอนสวิงจะเหมือนกับว่าก้านมีความ “หน่วง” (laggy) เล็กน้อยในช่วงท็อปสวิง ก่อนที่จะ “ดีด” (active kick) อย่างรวดเร็วตอนเข้าปะทะลูก ซึ่งความรู้สึกดีดนี้จะสัมผัสได้ชัดเจนบริเวณปลายก้าน
มีคนเปรียบเทียบความรู้สึกนี้ไว้อย่างเห็นภาพว่า “เหมือนกับตอนเล่นเกม Mario Kart ที่เราเหยียบคันเร่งรอตอนนับถอยหลัง พอถึงเลข 2 ก็พุ่งทะยานออกไป” มันคือฟีลลิ่งที่ให้ความรู้สึกถึงพลังและการปลดปล่อยพลังงานที่ชัดเจน
การออกแบบที่ให้ความรู้สึกดีดและนุ่มนวล แต่ภายในยังคงความเสถียรไว้อย่างเต็มเปี่ยมนี้ ไม่ใช่ข้อผิดพลาด แต่เป็นความตั้งใจของผู้ผลิต ก้านที่แข็งทื่ออาจจะเสถียรจริง แต่ก็อาจให้ความรู้สึกเหมือนตีด้วยท่อนไม้สำหรับนักกอล์ฟทั่วไป แต่ Tour AD GC สร้างความรู้สึกที่ทรงพลังและสนุกสนานในการสวิง ในขณะที่ผลลัพธ์ยังคงแม่นยำ นี่คือการทำให้ประสิทธิภาพระดับโปรเข้าถึงง่ายและรู้สึกดีสำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่น
ผลงานในสนาม: ลูกกอล์ฟพุ่งไปแบบไหน?
เมื่อความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมารวมกับเทคโนโลยีขั้นสูง ผลลัพธ์ที่ได้ในสนามจึงน่าประทับใจอย่างมาก
วิถีลูกและสปิน
ก้าน Tour AD GC ถูกออกแบบมาเพื่อให้วิถีลูกลอยปานกลาง (Mid Launch) และมีอัตราสปินในระดับ ต่ำถึงปานกลาง (Low/Mid to Mid Spin)
อธิบายง่ายๆ คือ ลูกกอล์ฟจะไม่ลอยโด่งจนเกินไปจนเสียระยะ และก็ไม่พุ่งต่ำจนเกินไปจนตกแล้วไม่วิ่ง เป็นวิถีลูกที่พุ่งไปข้างหน้าอย่างทรงพลัง (penetrating) ซึ่งควบคุมได้ง่ายและสู้ลมได้ดีมาก นักทดสอบคนหนึ่งบรรยายวิถีลูกว่าเป็น “วิถีที่เรียบและน่าเบื่อ” ซึ่งในกีฬากอล์ฟถือเป็นคำชมอย่างสูงสุด เพราะมันหมายถึงความแน่นอนนั่นเอง
ความสม่ำเสมอและการให้อภัย
นี่คือจุดที่ประสิทธิภาพที่แท้จริงของก้านนี้ฉายแววออกมา แม้จะให้ความรู้สึกดีด แต่ผลลัพธ์กลับนิ่งและเสถียรอย่างไม่น่าเชื่อ
- นักทดสอบพบว่าช็อตส่วนใหญ่จะพุ่งตรงหรือดรอว์เล็กน้อยอย่างสม่ำเสมอ
- ก้านมีความเสถียรสูงมาก แม้ในช็อตที่ตีพลาดกลางหน้าไม้ จะไม่รู้สึกว่าหัวไม้บิดหรือเปิด-ปิดในมือ ทำให้ทิศทางของลูกยังคงตรงอย่างน่าทึ่ง
- แม้แต่ “ช็อตที่แย่ที่สุด ก็ยังคงพอเล่นต่อไปได้” ทำให้เราไม่เจอปัญหาใหญ่ในสนาม
เข้าได้กับทุกสไตล์วงสวิง
Tour AD GC เป็นก้านที่ปรับตัวเข้ากับผู้เล่นได้หลากหลาย มันทำงานได้ดีกับนักกอล์ฟที่มีจังหวะสวิงนุ่มนวล และในขณะเดียวกันก็สามารถรองรับวงสวิงที่ดุดันและรวดเร็วได้ดีเช่นกัน แม้ว่าผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจะมาจากการลดความแรงลงเล็กน้อย ไม่ใช่การเหยียบเบรกจนสุด แต่เป็นการ “ไม่เหยียบคันเร่งมิดทะลุสี่แยก”
เมื่อเปรียบเทียบกับก้านรุ่นอื่นในตระกูล Tour AD จะเห็นภาพชัดขึ้น รุ่น Tour AD CQ จะค่อนข้างไวต่อจังหวะสวิง เหมาะกับคนที่สวิงได้สม่ำเสมอเหมือนหุ่นยนต์ ในขณะที่ Tour AD GC สามารถ “รับมือได้ทั้งสวิงที่ดีและสวิงที่ผิดพลาด” ได้ดีกว่า ส่วนรุ่น Tour AD VF จะให้วิถีลูกที่ต่ำกว่าและอาจต้องการความเร็วสวิงที่สูงกว่า สิ่งนี้ทำให้ Tour AD GC กลายเป็นก้านที่สมดุล ให้อภัย และเข้าถึงง่ายที่สุดในไลน์อัพปัจจุบัน เหมาะกับนักกอล์ฟในวงกว้าง
เบื้องหลังความสุดยอด: เทคโนโลยีข้างในมีอะไรบ้าง?
ความรู้สึกและประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมนี้เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีและวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์คุณภาพสูงระดับเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ
- AD SHIELD (เกราะป้องกันการบิดตัว): นี่คือเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ใช้ชั้นคาร์บอนไฟเบอร์แบบพิเศษพันรอบตัวก้าน ลองนึกภาพว่ามันคือเกราะที่ซ่อนอยู่ข้างใน คอยป้องกันไม่ให้ก้านบิดหรือเสียรูปทรงในขณะที่สวิงอย่างรุนแรง นี่คือเคล็ดลับที่ทำให้ก้านเสถียรมากแม้ตีพลาดจุดปะทะ
- TORAYCA® M40X (แกนกลางที่นุ่มและแข็งแกร่ง): เป็นวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ขั้นสูงที่ใช้ในส่วนโคนของก้าน (บริเวณด้ามจับ) คุณสมบัติพิเศษของมันคือทำให้ส่วนโคนมีความแข็งแรง ควบคุมง่าย แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกที่นุ่มนวล ไม่กระด้าง
- TORAYCA® T1100G (ปลายที่เสถียรและตอบสนอง): เป็นวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่แข็งแรงและมีราคาสูงมาก ถูกนำมาใช้ในส่วนปลายของก้าน วัสดุนี้คือสิ่งที่ทำให้ปลายก้านมีความเสถียรสูงสุด ช่วยให้หน้าไม้กลับมาสแควร์ตอนปะทะลูกได้อย่างแม่นยำ โดยไม่สูญเสีย “ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม” อันเป็นเอกลักษณ์ของ Graphite Design ไป
การผสมผสานเทคโนโลยีทั้งสามอย่างนี้เผยให้เห็นเป้าหมายการออกแบบที่ชัดเจน นั่นคือการสร้าง “ความเสถียรที่มาพร้อมกับความนุ่มนวล” (Stable Smoothness) ในยุคที่ผู้ผลิตหลายรายมุ่งเน้นไปที่ความเสถียรจนก้านรู้สึกแข็งกระด้าง Graphite Design ได้พิสูจน์ผ่าน Tour AD GC ว่านักกอล์ฟไม่จำเป็นต้องเลือกระหว่างความเสถียรและความรู้สึกอีกต่อไป
เจาะลึกโปรไฟล์ความแข็ง (EI Profile): วิทยาศาสตร์เบื้องหลังฟีลลิ่ง
นอกเหนือจากคำอธิบายและเทคโนโลยีวัสดุแล้ว “ลายแทงความแข็ง” หรือที่เรียกว่า EI Profile คือสิ่งที่เปิดเผยความลับเบื้องหลังประสิทธิภาพของก้าน Tour AD GC ได้อย่างชัดเจนที่สุด มันคือแผนภูมิที่แสดงให้เห็นว่าก้านมีความแข็งหรือนุ่ม ณ จุดใดบ้างตลอดความยาว ตั้งแต่โคนจรดปลาย
เมื่อดูที่กราฟ EI Profile ของ Tour AD GC เราจะเห็นเรื่องราวที่น่าสนใจซึ่งสอดคล้องกับความรู้สึกและผลลัพธ์ที่นักกอล์ฟสัมผัสได้จริง:
- โคนก้าน (Butt Section): กราฟเริ่มต้นที่ฝั่งขวาด้วยค่าความแข็งที่สูงมาก แสดงว่าส่วนโคนก้าน (ด้ามจับ) ถูกออกแบบมาให้แข็งแกร่ง เพื่อให้ความรู้สึกที่มั่นคงและควบคุมได้ดีสำหรับนักกอล์ฟที่มีวงสวิงเร็วและดุดัน
- กลางก้าน (Mid Section): จากนั้นเส้นกราฟจะค่อยๆ ลดระดับลงมาจนถึงจุดที่อ่อนที่สุดบริเวณกลางก้าน นี่คือ “หัวใจ” ที่สร้างความรู้สึก “หน่วง” และ “ดีด” ที่เป็นเอกลักษณ์ของก้านรุ่นนี้ ส่วนที่นุ่มลงนี้ช่วยให้ก้านสามารถสะสมพลังงานในช่วงดาวน์สวิงและปลดปล่อยออกมาได้อย่างเต็มที่ตอนปะทะลูก
- ปลายก้าน (Tip Section): จุดที่น่าทึ่งที่สุดคือช่วงปลาย กราฟจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นว่าปลายก้านมีความแข็งมาก (Firm+) ซึ่งนี่คือเคล็ดลับที่ทำให้ก้านมีความเสถียรและให้อภัยสูง แม้ว่ากลางก้านจะให้ความรู้สึกดีด แต่ปลายที่แข็งมากจะคอยควบคุมไม่ให้หัวไม้บิดหรือสะบัด ทำให้หน้าไม้กลับมาสแควร์ได้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้ลูกพุ่งตรงและสม่ำเสมอ
โปรไฟล์ลักษณะนี้ช่วยไขปริศนาที่ว่า “ทำไมก้านที่ให้ความรู้สึกดีดและนุ่มนวล ถึงให้ผลลัพธ์ที่เสถียรและแน่นอน” ได้เป็นอย่างดี มันคือการออกแบบเชิงวิศวกรรมที่จงใจสร้างส่วนที่อ่อนนุ่มเพื่อสร้าง “ฟีลลิ่ง” และสร้างส่วนที่แข็งแกร่งเพื่อสร้าง “ผลลัพธ์” ที่ยอดเยี่ยมนั่นเอง
สรุปข้อดี-ข้อเสียของ Tour AD GC
เพื่อให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจน ลองมาดูข้อดีและข้อเสียของก้านรุ่นนี้กัน
ข้อดี (Pros):
- เสถียรและให้อภัยสูงมาก: ลูกกอล์ฟตรงอย่างสม่ำเสมอ แม้ตีพลาดกลางหน้าไม้
- ฟีลลิ่งดีดและนุ่มนวล: ให้ความรู้สึกดีดตัวของก้านที่ทรงพลัง แต่ยังคงความนุ่มนวลอันเป็นเอกลักษณ์ของ Graphite Design
- เหมาะกับนักกอล์ฟหลากหลาย: ใช้ได้ดีกับคนที่มีจังหวะสวิงทั้งแบบนุ่มนวลและค่อนข้างเร็ว
- วิถีลูกพุ่งดีเยี่ยม: ให้วิถีลูกลอยปานกลาง สปินไม่สูงเกินไป ทำให้ลูกสู้ลมได้ดีและตกแล้ววิ่ง
- ดีไซน์สวยงามพรีเมียม: สีขาวมุกตัดกับสีบรอนซ์ดูโดดเด่นและหรูหรา
ข้อเสีย (Cons):
- ฟีลลิ่งอาจไม่คุ้นเคย: ความรู้สึกที่ปลายก้านดีดตัวอาจทำให้นักกอล์ฟบางคนที่ชอบฟีลลิ่งแข็งทื่อรู้สึกไม่คุ้นเคยในช่วงแรก
- ราคาสูง: เป็นก้านไม้กอล์ฟระดับพรีเมียม ทำให้มีราคาสูงกว่าก้านทั่วไปในตลาด โดยมีราคาอยู่ที่ประมาณ $379 – $500
- อาจไม่เหมาะกับคนที่ต้องการสปินต่ำสุดๆ: แม้จะเป็นก้านสปินต่ำ-ปานกลาง แต่ก็อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้เล่นที่ต้องการลดสปินให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ก้านนี้เหมาะกับใคร?
จากข้อมูลทั้งหมด สามารถสรุปได้ว่า Tour AD GC เหมาะสำหรับนักกอล์ฟกลุ่มต่อไปนี้
- นักกอล์ฟที่ต้องการความสมดุล: ผู้เล่นที่กำลังมองหาจุดลงตัวที่สมบูรณ์แบบระหว่างวิถีลูกลอยปานกลางและสปินที่ควบคุมได้
- ผู้เล่นที่ต้องการการให้อภัย: นักกอล์ฟที่มักตีพลาดกลางหน้าไม้ และต้องการก้านที่ช่วยให้ลูกยังคงอยู่ในแฟร์เวย์
- นักกอล์ฟที่ชอบฟีลลิ่งของก้าน: ผู้เล่นที่ชอบรู้สึกถึงการทำงานของก้าน (การดีดตัว) แต่ก็ยังต้องการผลลัพธ์ที่แน่นอนและสม่ำเสมอ
- นักกอล์ฟเกือบทุกคน: ดังที่นักทดสอบคนหนึ่งได้สรุปไว้ ก้านนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่รุ่นที่เขา “อยากจะแนะนำให้นักกอล์ฟเกือบทุกคนได้ลอง ไม่ว่าคุณจะมีความเร็ว จังหวะ หรือความต้องการเรื่องวิถีลูกแบบไหน”
ตารางสเปก: เลือกรุ่นที่ใช่สำหรับคุณ
Tour AD GC มีน้ำหนักให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ 40 กรัมไปจนถึง 80 กรัม เพื่อให้เหมาะกับนักกอล์ฟทุกระดับ ตารางด้านล่างนี้เป็นแนวทางเบื้องต้นในการเลือกน้ำหนักที่เหมาะสม
| Weight Category | เหมาะสำหรับ (Best Suited For) |
|---|---|
| 40g - 50g | นักกอล์ฟที่มีความเร็วหัวไม้ไม่สูงมากไปจนถึงปานกลาง ต้องการก้านน้ำหนักเบาที่ช่วยให้สร้างความเร็วและรู้สึกถึงการดีดของก้านได้ง่าย |
| 60g | เป็นน้ำหนักที่ได้รับความนิยมสูงสุด เหมาะกับนักกอล์ฟสมัครเล่นส่วนใหญ่ที่มีความเร็วหัวไม้ปานกลางไปจนถึงค่อนข้างเร็ว เป็นจุดสมดุลที่ดีระหว่างความเสถียรและความรู้สึก |
| 70g - 80g | นักกอล์ฟที่แข็งแรงและมีวงสวิงที่เร็วและดุดัน ที่ต้องการความเสถียรและการควบคุมสูงสุด เพื่อป้องกันลูกกระจาย |
บทสรุป: คุ้มค่าสมชื่อ “Game Changer” หรือไม่?
กลับมาที่คำถามสำคัญที่สุด: Graphite Design Tour AD GC คือ “Game Changer” ตัวจริงหรือไม่?
คำตอบคือ “ใช่” อย่างแน่นอน โดยเฉพาะสำหรับนักกอล์ฟที่เคยต้องเลือกระหว่างก้านที่ให้ “ความรู้สึก” ดี กับก้านที่ให้ “ผลลัพธ์” ที่ดี
Tour AD GC ได้เปลี่ยนเกมด้วยการพิสูจน์ว่าคุณไม่จำเป็นต้องเลือกอีกต่อไป มันมอบความรู้สึกดีดที่ทรงพลังและสนุกสนาน แต่ซ่อนแกนกลางที่เต็มไปด้วยความเสถียรและความสม่ำเสมออย่างไม่น่าเชื่อ
มันคือก้านที่ให้อภัยสูงมาก ให้วิถีลูกที่ควบคุมง่าย และมอบความรู้สึกพรีเมียมสมกับเป็นผลิตภัณฑ์จาก Graphite Design แม้ราคาจะสูง แต่ประสิทธิภาพและความสามารถรอบด้านที่มันมอบให้ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการยกระดับความสม่ำเสมอจากแท่นทีออฟอย่างจริงจัง
นี่ไม่ใช่แค่ก้านที่ทำงานได้ดีเมื่อคุณสวิงดี แต่มันยังเป็นก้านที่ช่วยจัดการช็อตที่ผิดพลาดของคุณได้ดีอีกด้วย และนั่นอาจเป็นสิ่งที่เรียกว่า “ผู้เปลี่ยนเกม” ได้อย่างแท้จริง
สนใจก้านไดรเวอร์ Tour AD GC
ราคา 10,500 บาท สอบถาม, ขอรูปภาพสินค้า สั่งซื้อก้าน Tour AD GC ทักแอดมิน Line ID: @GolfShafts













