ตีกอล์ฟ+ที่พัก สุดคุ้ม

ตีกอล์ฟที่สนาม Eastern Star ระยอง พักที่ Grace Seaview

รีวิวก้านไดรเวอร์ Tour AD GC

รีวิวละเอียด ก้านไดรเวอร์ Graphite Design Tour AD GC: “Game Changer” ตัวจริงหรือเปล่า?

October 29, 2025
Reviews, Shafts
โปรตึ๊ก
เมื่อพูดถึงก้านไม้กอล์ฟระดับพรีเมียม ชื่อของ Graphite Design จากประเทศญี่ปุ่นมักจะเป็นชื่อแรกๆ ที่นักกอล์ฟนึกถึง ด้วยชื่อเสียงด้านคุณภาพและประสิทธิภาพที่โปรทั่วโลกให้การยอมรับ

ล่าสุดในปี 2024-2025 นี้ พวกเขาได้เปิดตัวก้านรุ่นใหม่ในซีรีส์ Tour AD ที่โด่งดัง นั่นคือ Tour AD GC ซึ่งชื่อ “GC” นั้นย่อมาจาก “Game Changer” หรือ “ผู้เปลี่ยนเกม” แค่ชื่อก็บอกแล้วว่านี่ไม่ใช่ก้านธรรมดาๆ

แล้วอะไรที่ทำให้ก้านไม้กอล์ฟรุ่นนี้พิเศษจนกล้าตั้งชื่อแบบนี้? บทความนี้จะพาไปเจาะลึกทุกแง่มุม ตั้งแต่หน้าตาสุดเท่ ไปจนถึงความรู้สึกและผลงานในสนาม ด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายที่สุด เพื่อตอบคำถามว่ามันคือ “Game Changer” ตัวจริงหรือไม่

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดของก้านรุ่นนี้ คือความขัดแย้งกันระหว่าง “ความรู้สึก” ตอนสวิง กับ “ผลลัพธ์” ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเป็นปริศนาที่ทำให้นักกอล์ฟหลายคนต้องประหลาดใจ

Table of Contents
2
3

แรกเห็นก็สะดุดตา: ดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร

สิ่งแรกที่ทำให้ Tour AD GC โดดเด่นคือดีไซน์และสีสันที่สวยงาม ก้านรุ่นนี้มาในสี “ขาวมุก ตัดกับสีบรอนซ์และส้ม” (pearl white with bronze and orange accents) ซึ่งดูสดใสและทันสมัยมากๆ

ตัวก้านสีขาวมุกจะเปล่งประกายเมื่อโดนแสงแดดในสนาม ทำให้ดูพรีเมียมและแตกต่างจากก้านส่วนใหญ่ในตลาด การออกแบบนี้ถือเป็นการกลับไปสู่สไตล์สีสันสดใสที่เป็นเอกลักษณ์ของ Graphite Design ในอดีต แต่ก็ยังคงความทันสมัยเอาไว้ได้อย่างลงตัว

แค่เห็นก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือก้านไม้กอล์ฟจากแบรนด์ระดับท็อป ไม่ใช่แค่เครื่องมือสำหรับตี แต่เป็นอุปกรณ์กีฬาที่บ่งบอกถึงรสนิยมและคุณภาพได้เป็นอย่างดี

ความรู้สึกที่น่าประหลาดใจ: ฟีลลิ่งสวนทางกับผลลัพธ์

นี่คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ Tour AD GC แตกต่างจากก้านอื่นๆ นั่นคือความรู้สึกตอนสวิงที่อาจจะหลอกเราได้

ข้อมูลทางการ

ตามสเปกจากโรงงาน Graphite Design ระบุว่าก้านรุ่นนี้มีความแข็งไล่ระดับจากโคนไปปลายคือ แข็ง (Stiff) ที่โคน, เฟิร์ม (Firm) ตรงกลาง, และเฟิร์มมาก (Firm+) ที่ปลาย พูดง่ายๆ คือมันถูกออกแบบมาให้มีความเสถียรสูงมาก โดยเฉพาะส่วนปลายที่ใกล้กับหัวไม้ เพื่อป้องกันการบิดตัวและให้ความแม่นยำสูงสุด

ความรู้สึกจริงๆ ตอนใช้งาน

แต่สิ่งที่นักกอล์ฟที่ได้ทดลองใช้รู้สึกกลับแตกต่างออกไป แม้ว่าปลายก้านจะถูกระบุว่าแข็งมาก (Firm+) แต่หลายคนกลับรู้สึกว่ามันมีการ “ดีด” และ “ให้ตัว” ได้อย่างน่าประหลาดใจ

ความรู้สึกตอนสวิงจะเหมือนกับว่าก้านมีความ “หน่วง” (laggy) เล็กน้อยในช่วงท็อปสวิง ก่อนที่จะ “ดีด” (active kick) อย่างรวดเร็วตอนเข้าปะทะลูก ซึ่งความรู้สึกดีดนี้จะสัมผัสได้ชัดเจนบริเวณปลายก้าน

มีคนเปรียบเทียบความรู้สึกนี้ไว้อย่างเห็นภาพว่า “เหมือนกับตอนเล่นเกม Mario Kart ที่เราเหยียบคันเร่งรอตอนนับถอยหลัง พอถึงเลข 2 ก็พุ่งทะยานออกไป” มันคือฟีลลิ่งที่ให้ความรู้สึกถึงพลังและการปลดปล่อยพลังงานที่ชัดเจน

การออกแบบที่ให้ความรู้สึกดีดและนุ่มนวล แต่ภายในยังคงความเสถียรไว้อย่างเต็มเปี่ยมนี้ ไม่ใช่ข้อผิดพลาด แต่เป็นความตั้งใจของผู้ผลิต ก้านที่แข็งทื่ออาจจะเสถียรจริง แต่ก็อาจให้ความรู้สึกเหมือนตีด้วยท่อนไม้สำหรับนักกอล์ฟทั่วไป แต่ Tour AD GC สร้างความรู้สึกที่ทรงพลังและสนุกสนานในการสวิง ในขณะที่ผลลัพธ์ยังคงแม่นยำ นี่คือการทำให้ประสิทธิภาพระดับโปรเข้าถึงง่ายและรู้สึกดีสำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่น

ผลงานในสนาม: ลูกกอล์ฟพุ่งไปแบบไหน?

เมื่อความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมารวมกับเทคโนโลยีขั้นสูง ผลลัพธ์ที่ได้ในสนามจึงน่าประทับใจอย่างมาก

วิถีลูกและสปิน

ก้าน Tour AD GC ถูกออกแบบมาเพื่อให้วิถีลูกลอยปานกลาง (Mid Launch) และมีอัตราสปินในระดับ ต่ำถึงปานกลาง (Low/Mid to Mid Spin)

อธิบายง่ายๆ คือ ลูกกอล์ฟจะไม่ลอยโด่งจนเกินไปจนเสียระยะ และก็ไม่พุ่งต่ำจนเกินไปจนตกแล้วไม่วิ่ง เป็นวิถีลูกที่พุ่งไปข้างหน้าอย่างทรงพลัง (penetrating) ซึ่งควบคุมได้ง่ายและสู้ลมได้ดีมาก นักทดสอบคนหนึ่งบรรยายวิถีลูกว่าเป็น “วิถีที่เรียบและน่าเบื่อ” ซึ่งในกีฬากอล์ฟถือเป็นคำชมอย่างสูงสุด เพราะมันหมายถึงความแน่นอนนั่นเอง

ความสม่ำเสมอและการให้อภัย

นี่คือจุดที่ประสิทธิภาพที่แท้จริงของก้านนี้ฉายแววออกมา แม้จะให้ความรู้สึกดีด แต่ผลลัพธ์กลับนิ่งและเสถียรอย่างไม่น่าเชื่อ

  • นักทดสอบพบว่าช็อตส่วนใหญ่จะพุ่งตรงหรือดรอว์เล็กน้อยอย่างสม่ำเสมอ
  • ก้านมีความเสถียรสูงมาก แม้ในช็อตที่ตีพลาดกลางหน้าไม้ จะไม่รู้สึกว่าหัวไม้บิดหรือเปิด-ปิดในมือ ทำให้ทิศทางของลูกยังคงตรงอย่างน่าทึ่ง
  • แม้แต่ “ช็อตที่แย่ที่สุด ก็ยังคงพอเล่นต่อไปได้” ทำให้เราไม่เจอปัญหาใหญ่ในสนาม

เข้าได้กับทุกสไตล์วงสวิง

Tour AD GC เป็นก้านที่ปรับตัวเข้ากับผู้เล่นได้หลากหลาย มันทำงานได้ดีกับนักกอล์ฟที่มีจังหวะสวิงนุ่มนวล และในขณะเดียวกันก็สามารถรองรับวงสวิงที่ดุดันและรวดเร็วได้ดีเช่นกัน แม้ว่าผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจะมาจากการลดความแรงลงเล็กน้อย ไม่ใช่การเหยียบเบรกจนสุด แต่เป็นการ “ไม่เหยียบคันเร่งมิดทะลุสี่แยก”

เมื่อเปรียบเทียบกับก้านรุ่นอื่นในตระกูล Tour AD จะเห็นภาพชัดขึ้น รุ่น Tour AD CQ จะค่อนข้างไวต่อจังหวะสวิง เหมาะกับคนที่สวิงได้สม่ำเสมอเหมือนหุ่นยนต์ ในขณะที่ Tour AD GC สามารถ “รับมือได้ทั้งสวิงที่ดีและสวิงที่ผิดพลาด” ได้ดีกว่า ส่วนรุ่น Tour AD VF จะให้วิถีลูกที่ต่ำกว่าและอาจต้องการความเร็วสวิงที่สูงกว่า สิ่งนี้ทำให้ Tour AD GC กลายเป็นก้านที่สมดุล ให้อภัย และเข้าถึงง่ายที่สุดในไลน์อัพปัจจุบัน เหมาะกับนักกอล์ฟในวงกว้าง

เบื้องหลังความสุดยอด: เทคโนโลยีข้างในมีอะไรบ้าง?

ความรู้สึกและประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมนี้เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีและวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์คุณภาพสูงระดับเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ

  • AD SHIELD (เกราะป้องกันการบิดตัว): นี่คือเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ใช้ชั้นคาร์บอนไฟเบอร์แบบพิเศษพันรอบตัวก้าน ลองนึกภาพว่ามันคือเกราะที่ซ่อนอยู่ข้างใน คอยป้องกันไม่ให้ก้านบิดหรือเสียรูปทรงในขณะที่สวิงอย่างรุนแรง นี่คือเคล็ดลับที่ทำให้ก้านเสถียรมากแม้ตีพลาดจุดปะทะ
  • TORAYCA® M40X (แกนกลางที่นุ่มและแข็งแกร่ง): เป็นวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ขั้นสูงที่ใช้ในส่วนโคนของก้าน (บริเวณด้ามจับ) คุณสมบัติพิเศษของมันคือทำให้ส่วนโคนมีความแข็งแรง ควบคุมง่าย แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกที่นุ่มนวล ไม่กระด้าง
  • TORAYCA® T1100G (ปลายที่เสถียรและตอบสนอง): เป็นวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่แข็งแรงและมีราคาสูงมาก ถูกนำมาใช้ในส่วนปลายของก้าน วัสดุนี้คือสิ่งที่ทำให้ปลายก้านมีความเสถียรสูงสุด ช่วยให้หน้าไม้กลับมาสแควร์ตอนปะทะลูกได้อย่างแม่นยำ โดยไม่สูญเสีย “ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม” อันเป็นเอกลักษณ์ของ Graphite Design ไป

การผสมผสานเทคโนโลยีทั้งสามอย่างนี้เผยให้เห็นเป้าหมายการออกแบบที่ชัดเจน นั่นคือการสร้าง “ความเสถียรที่มาพร้อมกับความนุ่มนวล” (Stable Smoothness) ในยุคที่ผู้ผลิตหลายรายมุ่งเน้นไปที่ความเสถียรจนก้านรู้สึกแข็งกระด้าง Graphite Design ได้พิสูจน์ผ่าน Tour AD GC ว่านักกอล์ฟไม่จำเป็นต้องเลือกระหว่างความเสถียรและความรู้สึกอีกต่อไป

เจาะลึกโปรไฟล์ความแข็ง (EI Profile): วิทยาศาสตร์เบื้องหลังฟีลลิ่ง

นอกเหนือจากคำอธิบายและเทคโนโลยีวัสดุแล้ว “ลายแทงความแข็ง” หรือที่เรียกว่า EI Profile คือสิ่งที่เปิดเผยความลับเบื้องหลังประสิทธิภาพของก้าน Tour AD GC ได้อย่างชัดเจนที่สุด มันคือแผนภูมิที่แสดงให้เห็นว่าก้านมีความแข็งหรือนุ่ม ณ จุดใดบ้างตลอดความยาว ตั้งแต่โคนจรดปลาย

เมื่อดูที่กราฟ EI Profile ของ Tour AD GC เราจะเห็นเรื่องราวที่น่าสนใจซึ่งสอดคล้องกับความรู้สึกและผลลัพธ์ที่นักกอล์ฟสัมผัสได้จริง:

  • โคนก้าน (Butt Section): กราฟเริ่มต้นที่ฝั่งขวาด้วยค่าความแข็งที่สูงมาก แสดงว่าส่วนโคนก้าน (ด้ามจับ) ถูกออกแบบมาให้แข็งแกร่ง เพื่อให้ความรู้สึกที่มั่นคงและควบคุมได้ดีสำหรับนักกอล์ฟที่มีวงสวิงเร็วและดุดัน
  • กลางก้าน (Mid Section): จากนั้นเส้นกราฟจะค่อยๆ ลดระดับลงมาจนถึงจุดที่อ่อนที่สุดบริเวณกลางก้าน นี่คือ “หัวใจ” ที่สร้างความรู้สึก “หน่วง” และ “ดีด” ที่เป็นเอกลักษณ์ของก้านรุ่นนี้ ส่วนที่นุ่มลงนี้ช่วยให้ก้านสามารถสะสมพลังงานในช่วงดาวน์สวิงและปลดปล่อยออกมาได้อย่างเต็มที่ตอนปะทะลูก
  • ปลายก้าน (Tip Section): จุดที่น่าทึ่งที่สุดคือช่วงปลาย กราฟจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นว่าปลายก้านมีความแข็งมาก (Firm+) ซึ่งนี่คือเคล็ดลับที่ทำให้ก้านมีความเสถียรและให้อภัยสูง แม้ว่ากลางก้านจะให้ความรู้สึกดีด แต่ปลายที่แข็งมากจะคอยควบคุมไม่ให้หัวไม้บิดหรือสะบัด ทำให้หน้าไม้กลับมาสแควร์ได้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้ลูกพุ่งตรงและสม่ำเสมอ

โปรไฟล์ลักษณะนี้ช่วยไขปริศนาที่ว่า “ทำไมก้านที่ให้ความรู้สึกดีดและนุ่มนวล ถึงให้ผลลัพธ์ที่เสถียรและแน่นอน” ได้เป็นอย่างดี มันคือการออกแบบเชิงวิศวกรรมที่จงใจสร้างส่วนที่อ่อนนุ่มเพื่อสร้าง “ฟีลลิ่ง” และสร้างส่วนที่แข็งแกร่งเพื่อสร้าง “ผลลัพธ์” ที่ยอดเยี่ยมนั่นเอง

สรุปข้อดี-ข้อเสียของ Tour AD GC

เพื่อให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจน ลองมาดูข้อดีและข้อเสียของก้านรุ่นนี้กัน

ข้อดี (Pros):

  • เสถียรและให้อภัยสูงมาก: ลูกกอล์ฟตรงอย่างสม่ำเสมอ แม้ตีพลาดกลางหน้าไม้
  • ฟีลลิ่งดีดและนุ่มนวล: ให้ความรู้สึกดีดตัวของก้านที่ทรงพลัง แต่ยังคงความนุ่มนวลอันเป็นเอกลักษณ์ของ Graphite Design
  • เหมาะกับนักกอล์ฟหลากหลาย: ใช้ได้ดีกับคนที่มีจังหวะสวิงทั้งแบบนุ่มนวลและค่อนข้างเร็ว
  • วิถีลูกพุ่งดีเยี่ยม: ให้วิถีลูกลอยปานกลาง สปินไม่สูงเกินไป ทำให้ลูกสู้ลมได้ดีและตกแล้ววิ่ง
  • ดีไซน์สวยงามพรีเมียม: สีขาวมุกตัดกับสีบรอนซ์ดูโดดเด่นและหรูหรา

ข้อเสีย (Cons):

  • ฟีลลิ่งอาจไม่คุ้นเคย: ความรู้สึกที่ปลายก้านดีดตัวอาจทำให้นักกอล์ฟบางคนที่ชอบฟีลลิ่งแข็งทื่อรู้สึกไม่คุ้นเคยในช่วงแรก
  • ราคาสูง: เป็นก้านไม้กอล์ฟระดับพรีเมียม ทำให้มีราคาสูงกว่าก้านทั่วไปในตลาด โดยมีราคาอยู่ที่ประมาณ $379 – $500
  • อาจไม่เหมาะกับคนที่ต้องการสปินต่ำสุดๆ: แม้จะเป็นก้านสปินต่ำ-ปานกลาง แต่ก็อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้เล่นที่ต้องการลดสปินให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ก้านนี้เหมาะกับใคร?

จากข้อมูลทั้งหมด สามารถสรุปได้ว่า Tour AD GC เหมาะสำหรับนักกอล์ฟกลุ่มต่อไปนี้

  • นักกอล์ฟที่ต้องการความสมดุล: ผู้เล่นที่กำลังมองหาจุดลงตัวที่สมบูรณ์แบบระหว่างวิถีลูกลอยปานกลางและสปินที่ควบคุมได้
  • ผู้เล่นที่ต้องการการให้อภัย: นักกอล์ฟที่มักตีพลาดกลางหน้าไม้ และต้องการก้านที่ช่วยให้ลูกยังคงอยู่ในแฟร์เวย์
  • นักกอล์ฟที่ชอบฟีลลิ่งของก้าน: ผู้เล่นที่ชอบรู้สึกถึงการทำงานของก้าน (การดีดตัว) แต่ก็ยังต้องการผลลัพธ์ที่แน่นอนและสม่ำเสมอ
  • นักกอล์ฟเกือบทุกคน: ดังที่นักทดสอบคนหนึ่งได้สรุปไว้ ก้านนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่รุ่นที่เขา “อยากจะแนะนำให้นักกอล์ฟเกือบทุกคนได้ลอง ไม่ว่าคุณจะมีความเร็ว จังหวะ หรือความต้องการเรื่องวิถีลูกแบบไหน”

ตารางสเปก: เลือกรุ่นที่ใช่สำหรับคุณ

Tour AD GC มีน้ำหนักให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ 40 กรัมไปจนถึง 80 กรัม เพื่อให้เหมาะกับนักกอล์ฟทุกระดับ ตารางด้านล่างนี้เป็นแนวทางเบื้องต้นในการเลือกน้ำหนักที่เหมาะสม

Weight Category เหมาะสำหรับ (Best Suited For)
40g - 50g นักกอล์ฟที่มีความเร็วหัวไม้ไม่สูงมากไปจนถึงปานกลาง ต้องการก้านน้ำหนักเบาที่ช่วยให้สร้างความเร็วและรู้สึกถึงการดีดของก้านได้ง่าย
60g เป็นน้ำหนักที่ได้รับความนิยมสูงสุด เหมาะกับนักกอล์ฟสมัครเล่นส่วนใหญ่ที่มีความเร็วหัวไม้ปานกลางไปจนถึงค่อนข้างเร็ว เป็นจุดสมดุลที่ดีระหว่างความเสถียรและความรู้สึก
70g - 80g นักกอล์ฟที่แข็งแรงและมีวงสวิงที่เร็วและดุดัน ที่ต้องการความเสถียรและการควบคุมสูงสุด เพื่อป้องกันลูกกระจาย
ตารางนี้เป็นเพียงแนวทางเริ่มต้นเท่านั้น วิธีที่ดีที่สุดในการค้นหาก้านที่สมบูรณ์แบบสำหรับวงสวิงของคุณ คือการไปทำฟิตติ้งกับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวิเคราะห์วงสวิงและเลือกน้ำหนักรวมถึงความแข็ง (Flex) ที่เหมาะสมที่สุด

บทสรุป: คุ้มค่าสมชื่อ “Game Changer” หรือไม่?

กลับมาที่คำถามสำคัญที่สุด: Graphite Design Tour AD GC คือ “Game Changer” ตัวจริงหรือไม่?

คำตอบคือ “ใช่” อย่างแน่นอน โดยเฉพาะสำหรับนักกอล์ฟที่เคยต้องเลือกระหว่างก้านที่ให้ “ความรู้สึก” ดี กับก้านที่ให้ “ผลลัพธ์” ที่ดี

Tour AD GC ได้เปลี่ยนเกมด้วยการพิสูจน์ว่าคุณไม่จำเป็นต้องเลือกอีกต่อไป มันมอบความรู้สึกดีดที่ทรงพลังและสนุกสนาน แต่ซ่อนแกนกลางที่เต็มไปด้วยความเสถียรและความสม่ำเสมออย่างไม่น่าเชื่อ

มันคือก้านที่ให้อภัยสูงมาก ให้วิถีลูกที่ควบคุมง่าย และมอบความรู้สึกพรีเมียมสมกับเป็นผลิตภัณฑ์จาก Graphite Design แม้ราคาจะสูง แต่ประสิทธิภาพและความสามารถรอบด้านที่มันมอบให้ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการยกระดับความสม่ำเสมอจากแท่นทีออฟอย่างจริงจัง

นี่ไม่ใช่แค่ก้านที่ทำงานได้ดีเมื่อคุณสวิงดี แต่มันยังเป็นก้านที่ช่วยจัดการช็อตที่ผิดพลาดของคุณได้ดีอีกด้วย และนั่นอาจเป็นสิ่งที่เรียกว่า “ผู้เปลี่ยนเกม” ได้อย่างแท้จริง

สนใจก้านไดรเวอร์ Tour AD GC

ราคา 10,500 บาท สอบถาม, ขอรูปภาพสินค้า สั่งซื้อก้าน Tour AD GC ทักแอดมิน Line ID: @GolfShafts

บทความแนะนำ…

เอาชนะ “เสียงในหัว” เคล็ดลับจิตวิทยาในเกมกอล์ฟ (Overcoming Self-Doubt)

เอาชนะ “เสียงในหัว” เคล็ดลับจิตวิทยาในเกมกอล์ฟ (Overcoming Self-Doubt)

เคยไหมครับ ยืนอยู่หน้าลูกกอล์ฟในช็อตสำคัญ แล้วในหัวก็มีเสียงแว่วมาว่า "พลาดแน่ๆ" หรือ "เดี๋ยวก็ตีไม่ดีอีก" ความรู้สึกนี้เรียกว่า "ความสงสัยในตัวเอง"...

ตีเท่าไหร่ก็พลาด? มาแก้ ‘เกร็งเกิน’ ในวงสวิงกอล์ฟกัน! (ฉบับ Inner Game)

ตีเท่าไหร่ก็พลาด? มาแก้ ‘เกร็งเกิน’ ในวงสวิงกอล์ฟกัน! (ฉบับ Inner Game)

เวลาออกรอบหรือซ้อมไดรฟ์ ตั้งใจจะตีให้ดี แต่กลับตีแป้ก ตีสไลซ์ ตีฮุค หรือตีไม่โดนลูกซะงั้น? อาการแบบนี้ หลายครั้งเกิดจากสิ่งที่เราเรียกว่า...

หลุม 2 Eastern Star (Par 4): หลุม Dogleg สุดท้าทาย กับกรีน 2 ลอน

หลุม 2 Eastern Star (Par 4): หลุม Dogleg สุดท้าทาย กับกรีน 2 ลอน

สวัสดีครับนักกอล์ฟทุกคน กลับมาเจาะลึกสนาม Eastern Star กันต่อที่ หลุม 2 พาร์ 4 ครับ หลุมนี้เป็นหลุม Dogleg หักศอกขวา ที่มีความยาก วัดกันที่ความแม่น...

ตีกอล์ฟให้ต่ำกว่า 90: ทำยังไงให้เลิกคิดมากในสนาม ด้วยเทคนิค “Back-Hit-Stop”

ตีกอล์ฟให้ต่ำกว่า 90: ทำยังไงให้เลิกคิดมากในสนาม ด้วยเทคนิค “Back-Hit-Stop”

สวัสดีครับเพื่อนๆ นักกอล์ฟ เคยไหมครับที่ตั้งใจจะตีให้ดี อยากจะทำสกอร์ให้ต่ำกว่า 90 แต่พอลงสนามจริงกลับตีไม่ได้อย่างที่ซ้อม? ตีเสียสลับกับตีดี...

0
No products in the cart